วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อเมดีโอ โมดิลยานิ ศิลปินที่ยิ่งใหญ่แห่งอิตาลี่ ตอนที่ 7


ต่อมาเมื่อภรรยาทราบข่าว การเสียชีวิตของสามีอเมดีโอ โมดิลยานิ ชาวอิตาลี จึงตัดสินใจกระโดด หน้าต่างลงมา และเสียชีวิตพร้อมกับลูกที่อยู่ในครรภ์ ร่างของคนทั้งสอง

โดยลูกทั้งสองคนของเขาถูกฝังไว้ที่ สุสาน Pere-Lachaise ในฝรั่งเศส ซึ่งโนเอล อเล็กซานเดอร์ ลูก ชายของ ดร.พอล อเล็กซานเดอร์ ได้รวบรวมผลงานวาดเส้น จำนวนกว่า 450 ชิ้น มาพิมพ์ไว้ในหนังสือชื่อ "The Unknown Modigliani"

รวมทั้งมีการสร้างสถาบันอเมดิโอ โมดิลยานิ (Amedeo Modigliani Institute) ศิลปินชาวอิตาลีเพื่อ รวบรวมผลงานศิลปะของเขามาจัดแสดง ให้แก่ศิลปินที่เคยได้ชื่อว่า เป็นศิลปินชั้นเลว แต่บัดนี้เขากลายเป็น ศิลปินสมัยใหม่คนสำคัญของอิตาลี

ทำไมถึงต้องมีเทศกาลปาส้มที่อิตาลี?



เทศกาลปาส้ม จัดขึ้นที่เมืองอีเวรี ของประเทศอิตาลี เป็นประจำทุกปี โดยประชาชนในท้องถิ่นจะพากันสวมชุดสมัยยุคกลางเพื่อเข้าร่วมสงครามปาส้ม ที่ ดุเดือด ซึ่งมีตำนานย้อนหลังของเทศกาลนี้มีที่มาจากการที่ชาวเมืองทำการต่อต้านท่านเคาท์ราเนรีผู้ปกครอง เมืองในช่วงราวคริสต์ศตวรรษที่ 12 ที่มักข่มเหงชาวเมืองด้วยการลักพาตัวหญิงสาวสามัญชน ที่กำลังจะแต่งงานให้ไปเป็นภรรยาของตนเอง

ในวันหนึ่งท่านเคาท์ราเนรีได้ไปลักพาตัว ไวโอเล็ตต้า ลูกสาวเจ้าของโรงโม่ข้าวไป ด้วยความกล้าหาญของไวโอเล็ตต้า เธอจึงต่อสู้และสามารถตัดหัวของท่านเคาท์นำมาประจาน ทำให้ชาวเมืองต่างยินดี แต่เมื่อทหารทราบข่าวจึงรีบไปจับตัวไวโอเล็ตต้า ทำให้ชาวเมืองต่างช่วยกันปาหินใส่ทหารเหล่านั้น จนกระทั่งเหตุการดังกล่าวกลายมาเป็นประเพณีที่ต้องทำกันทุกๆปี เพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญของไวโอเล็ตต้า

ในทุกๆปีส้มจำนวน 500 ตันจะถูกส่งจากเมืองซิซิลี่ไปยังเมืองอีเวรีของประเทศอิตาลี เพื่อให้ประชาชนใช้เป็นอาวุธสำคัญในการทำสงครามปาส้ม ซึ่งจะมีผู้บังคับม้าให้ลากรถเกวียนที่บรรทุกกลุ่มอาสาสมัครใส่ชุดนวมและหมวก ป้องกันเข้ามาอยู่กลางเมือง หลังจากนี้ไปก็เกิดการปาส้มระหว่างคนบนรถเกวียนกับคนที่ยืนอยู่ด้านล่างกัน อย่างอลหม่าน

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ตำนานพิซซ่า ตอนที่ 2


เอกลักษณ์สำคัญของพิซซ่านาโปลี ต้องอบในเตาที่อุณหภูมิ 340 องศาเซลเซียส ต้องใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง ต้องมีชีสมอซซาเรลล่า ผงเครื่องเทศออริกาโน (Origano) ปลาเค็มเอนโชวี (Anchovi)* มะเขือเทศ เบซิล (Basil) และกระเทียม

พอช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คนอเมริกันก็หัดทำพิซซ่ากินกันบ้าง จนได้สูตรแบบอเมริกัน และแพร่หลายไปทั่วโลก ครั้นปีค.ศ. 1960 เกิดเกิดสงครามเวียดนามทหารอเมริกันเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทย ได้นำเอาวัฒนธรรมการกินพิซซ่าเข้ามาด้วยแต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก สมัยนั้นต้องไปกินกันตามโรงแรม และห้องอาหารอิตาเลียนเท่านั้น

 แต่เมื่อประมาณ พ.ศ. 2513 ร้านพิซซ่าฮัท มาเปิดสาขาแรก เด็กไทย คนรุ่นใหม่ก็แห่กินกันทั้งบ้านทั้งเมือง ทุกวันนี้การกินพิซซ่าไม่ได้ยากลำบากอีกแล้ว เพียงโทรศัพท์กริ๊งเดียวภายใน 15 นาทีก็มาส่งถึงบ้านแล้ว